วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

นิทานดอกไม้ … มงกุฎน้อยของ ดอกแพสซิฟลอรา

วันหนึ่งในกลางฤดูร้อน ในดินแดนแห่งดอกไม้แสนสวย นานแสนนานมาแล้ว ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีคราม ท้องทุ่งที่เคยเขียวใส บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองด้วยดงดอก Butter cup 

ไกลออกไปอีกเล็กน้อย เนินเขาเตี้ยๆหลายลูกถูกปกคลุมด้วยสีแดงของดอกซอร์เรล .. สีสันแห่งฤดูร้อนอันสดใส สลับสล้างทั่วไปทั้งดินแดน

ริมลำธารน้ำใส Iris กอใหญ่หลายต่อหลายกอต่อเนื่องเป็นดงใหญ่ แย้มดอกสีเหลืองสว่างใสนับพัน และเมื่อลมร้อนพัดโชย กลีบบางของ Iris ก็พลิ้วเต้น ราวกับกระโปรงของเหล่าสาวน้อยนักเริงระบำผู้ชำนาญ

ลานหญ้าริมน้ำใกล้ๆกันนั้น เมื่อปลายฤดูร้อนที่แล้ว เทพธิดาแห่งดอกไอริสได้เชื้อเชิญให้บรรดาเทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้มาร้องรำทำเพลง เล่นสนุกกันอย่างเบิกบานใจ เลยลงไปนิดตามลำธาร เลยหาดกรวดก้อนกลมเล็กไปไม่ไกลนัก ดอก Water Forget-me-not กอใหญ่ผลิดอกเล็กสีฟ้าใสจำนวนมากมาย ดูงามประหนึ่งอัญมณีล้ำค่า

เหนือกอ Water Forget-me-not นั้น มีแมลงปอเดอมัวเซลสีฟ้าเขียว แวววาวราวปีกแมลงทับหนึ่งคู่บินร่อนไปมา น้ำใส สะท้อนสีฟ้าครามงามจับตา

แต่ .. วันร้อนนี้ ในดินแดนแห่งดอกไม้ไม่เหมือนกับทุกๆวันในฤดูร้อนทั่วไป ด้วยว่าเมื่อหันไปทางไหน ก็ไม่มีใครเห็นริองรอยของเพื่อนๆชาวผึ้งผู้ขยันขันแข็ง ของเหล่าเทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้เลย ..

จนแม้เจ้าหนุ่มผีเสื้อปีกสีส้ม ผู้ปรกติแล้วจะง่วนอยู่กับการดูดกินน้ำหวานจากดอกไม้นานาพันธุ์ก็ยังแปลก เมื่อสังเกตเห็นว่าคู่แข่งคนสำคัญของตนหายไป

เสียงหึ่งๆของปีกบางใสที่ขยับตีลมรวดเร็วของบรรดาผึ้งทั้งหลาย ที่เป็นเรื่องแสนจะธรรมดาของวันในฤดูร้อนอย่างนี้ วันนี้ไม่มีใครเห็นแม้สักคน

เอ๊ะ ผึ้งงานคนขยันหายไปไหนกันหมดนะ” … เทพธิดาแห่งดอกบลูเบลล์ ผู้มีน้ำเสียงกังวาลใสราวระฆังแก้วกล่าวกับเทพธิดาแห่งดอกกุหลาบป่าสีชมพูสวย

นั่นซิจ๊ะบลูเบลล์ จริงด้วย จริงอย่างที่เธอว่า พวกผึ้งหายไปไหนกันหมด” .. เทพธิดาแห่งดอกกุหลาบป่ากล่าวอบ่างวิตกกังวล

ฉันชักเป็นห่วงแล้วซิ” …

เทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา ผู้อยู่ใกล้ๆกันนั้น ขยับปีกสีม่วงใสบินเข้าใกล้เทพธิดาแห่งดอกบลูเบลล์ และเทพธิดาแห่งดอกกุหลายป่า และเมื่อสังเกตเห็นว่า เทพธิดาแห่งดอกไม้ทั้งสอง ดูเหมือนจะมีเรื่องกังวลใจ เธอจึงภามขึ้นว่า … “เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะ

เทพธิดาแห่งดอกบลูเบลล์ จึงกล่าวกับเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา … “เธอไม่สังเกตหรอกรึว่า วันนี้พวกผึ้งเพื่อนเราหายไปไหนกันหมด .. ในฤดูร้อน โดยเฉพาะในวันที่สดใส และมีดอกไม้ผลิบานมากมายอย่างวันนี้ นอกจากคุณผีเสื้อหลากสี และแมลงอื่นๆอีกเล็กน้อยแล้ว ก็จะเห็นคุณผึ้งก้นลายเหลืองดำนี่แหละ ที่บินไปมาเพื่อกินน้ำหวาน เก็บละอองเกสร และช่วยผสมพันธุ์ดอกไม้ของพวกเรา

วันนี้ ฉันคิดถึงเสียงหึ่งๆของพวกผึ้งที่พวกเราหลายคนบ่นรำคาญ .. พวกเขาไปไหนกันนะ

เทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอราหันมองสำรวจดูรอบๆตัว เธอขยับปีกสีม่วงคู่น้อยๆบินสูงขึ้นไป กวาดสายตาดูรอบบริเวณ ก็ไม่เห็นมีวี่แววของเพื่อนชาวผึ้งเลยแม้แต่ตัวเดียว

ตายแล้ว” … เทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรากล่าว

ตายแล้ว หายไปไหนกันหมดนะ

ผึ้งอยู่ไหน ผึ้งอยู่ไหนจ๊ะ ผึ้งอยู่ไหน เอ๊ะ ทำไม เอ๊ะ ทำไมเธอไม่มา

ฉันมองหา ฉันมองหา เธอไม่มากันสักที หรือว่าหนีกันไปไหน ไม่สนใจฉันหรือไร” … เสียงใสๆของน้องเล็ก เทพบุตรแห่งดอกโคลพเว่อร์สีขาว ดังประสานกับเสียงนุ่มน่าเอ็นดูของเทพธิดาแห่งดอกบัตเตอร์คัพ ฮัม เพลง ผึ้งอยู่ไหนที่พวกเขาแต่งเองเมื่อครู่

โคลพเวอร์ บัตเตอร์คัพ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่หนูทั้งสองจะมาบินร้องเพลงประสานเสียงเล่นเย็นๆใจอย่างนี้นะเทพธิดาแห่งดอกบลูเบลล์กล่าวตำหนิน้องเล็กทั้งสอง

ขอโทษครับ

ขอโทษค่ะน้องเล็กทั้งสองกล่าวขึ้นพร้อมๆกัน

เทพธิดาแห่งดอกบลูเบลล์เห็นทั้งคู่เสียใจ เธอจึงกล่าวต่อว่า .. ‘เอาละ เอาละ ไม่เป็นไร โถลพเวอร์ และ บัตเตอร์คัพ ไม่เป็นไร ไม่ต้องเสียใจ พี่จะพูดให้ฟัง …”

“.. น้องทั้งสองต้องเข้าใจนะว่า ถ้าไม่มีคุณผึ้งแล้ว ก็จะไม่มีใครมาช่วยผสมเกสรดอกไม้นานพันธุ์ของพวกเรา นั่นก็รวมถึงดอกโคลพเวอร์ และดอกบัตเตอร์คัพของหนูด้วย ทีนี้ดอกไม้ของเราก็จะไม่ติดเมล็ด .. มันเป็นภาระหนักหน่วงเกินกำลังของคุณผีเสื้อและแมลงอื่นๆ ที่จะทำได้เสร็จสมบูรณ์ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราก็แย่แน่เลย ทีนี้รู้แล้วนะ

เทพธิดาแห่งดอกบัตเตอร์คัพ และเทพบุตรแห่งดอกโคลพเวอร์พยักหน้า แล้วทั้งหมดก็เงียบไป

เราจะทำยังไงกันดีเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา กล่าวทำลายความเงียบขึ้นอย่างกังวลใจ

แล้วน้องเล็กแห่งดอกโคลพเวอร์ ก็ตะโกนเสียงดัง .. “นั่นไงคุณผึ้ง นั่นใงคุณผึ้ง

คุณผึ้งจริงๆด้วยเทพธิดาแห่งดอกบัตเตอร์คัพสีเหลืองทองชี้นิ้วกระจิดหริดของเธอไปที่ผึ้งงานตัวหนึ่ง ที่กำลังบิอยู่ไกลลิบ

ทุกคนมองหน้ากัน แล้วโดยพร้อมเพรียง เทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้ทั้งห้า ก็ขยีบปีดคู้จิ๋วของตน พาร่างบินเหนือดงดอกบัตเตอร์คัพสีทอง และดงดอกซอร์เรลสีแดงกำมะหยี่ ไปในทิศทางที่เทพธิดาแห่งดอกบัตเตอร์คัพชี้เมื่อครู่

คุณผึ้ง คุณผึ้งทุกคนตะโกนสุดเสียง ขณะที่ต่างก็เร่งกระพือปีกเล็กจิ๋วหลากสีของตนบินตามไป ด้วยความหวังที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนๆของพวกเขา

พวกเขาบินตามทันผึ้งหนุ่ม ก็เมื่อถึงโรงงานผลิตน้ำผึ้งที่วันนั้นแสนจะเงียบเหงา ทั้งๆที่จริงแล้ว น่าจะเป็นวันที่บรรดาผึ้งทั้งหมดจะยุ่งวุ่นวายอยู่กับการลำเลียงและผลิตน้ำผึ้งอันหอมหวาน

เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ คุณผึ้งหนุ่มพวกเราเป็นห่วงมากที่พวกเธอหายไปน้องเล็ก เทพบุตรแห่งดอกแพสซิฟลอรากล่าวถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างที่สุด

จริง จริงนะ พวกเราเป็นห่วงจริงๆ พวกเธอหายไปไหนกันหมดน้องเล็กเทพบุตรแห่งดอกโคลพเวอร์กล่าวยืนยัน ด้วยตอนนี้เขารู้แล้วถึงความสำคัญของเพื่อนๆชาวผึ้ง

ผึ้งหนุ่มน้อย กล่าวกับทุกคนอย่างเศร้าสร้อยว่า ราชินีผึ้งของเราถูกลักพาตัว

ถูกลักพาตัว .. ราชินีผึ้งถูกลักพาตัวเทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้อุทานขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ

เทพแห่งดอกไม้ผู้น่ารัก ตามฉันมาสิ พวกเรากำลังประชุมกันอยู่ที่ศาลากลางแห่งนครผึ้ง พวกเรากำลังคิดกันว่า จะทำอย่างไรกันดีในขณะนี้ ที่ราชินีของพวกเราถูกลักพาตัวไปผึ้งน้อยกล่าวชักชวน

บรรยากาศแห่งความโศกเศร้าและเงียบเหงาปกคลุมไปทั่ว เมื่อคณะของเทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้พากันบินตามผึ้งหนุ่มไปยังนครผึ้ง

คณะมนตรีผึ้งกำลังหารือ แก้ไขปัญหากันอย่างจริงจัง หัวหน้าคณะมนตรีกล่าวต้อนรับ และเชื้อเชิญบรรดาเทพแห่งดอกไม้สู่ที่ประชุม แล้วเขาก็ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง

เมื่อวานนี้ ขณะที่พวกเราทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการผลิตน้ำผึ้ง พวกด้วงทหารเกราะดำจำนวนมาก พากันบุกเข้าสู่พระราชฐาน แล้วลักพาตัวองค์ราชินีของพวกเราไป

หัวหน้าคณะมนตรีหยุดชั่วขณะ ดวงหน้าเขามีแต่ความเศร้าสร้อย แล้วเขาก็พูดต่อว่า .. ‘พวกท่านมากันก็ดีแล้ว เผื่อว่าจะช่วยเหลืออะไรพวกเราได้

จะให้พวกเราทำอะไร จะให้พวกเราช่วยอะไร ก็ขอให้ท่านบอกมาเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรากล่าวอย่างกระตือรือร้น

พวกเราคิดว่า ขณะนี้นางแม่มดวาเนสซาตัวร้าย คงควบคุมตัวพระนางเอาไว้ ณ หอคอยยอดปราสาทแห่งรัตติกาลของนาง ในอิงเกิ้ลวู้ดเป็นแน่

ก่อเรื่อง รังควานความสงยบสุขไม่รู้จบสิ้นเทพธิดาแห่งดอกกุหลาบกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

ฉันเกลียดนางเวเนสซาที่สุด

หนูก็เหมือนกัน เกลียดที่สุด เกลียดที่สุดน้องเล็ก เทพธิดาแห่งดอกบัตเตอร์คัพ และเทพบุตรแห่งดอกโคลพเวอร์กล่าวขึ้นพร้อมกัน

และแล้ว บรรดาเทพแห่งดอกไม้ตัวน้อยๆ ก็ร่วมกันหารือวางแผนช่วยราชินีผึ้งกับเพื่อนๆชาวผึ้งของพวกเขา มีผู้เสนอแผนการมากมาย แต่ดูเหมือนว่าแผนการของเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอราจะเข้าทีที่สุด ที่ประชุมจึงตกลงที่จะใช้แผนการของเธอ

ละครฉากใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นที่ชายป่าอิงเกิ้ลวู้ดที่น่าสะพรึงกลัว

ของฉัน น้ำหวานวิเศษนี้เป็นของฉัน ของฉันคนเดียวสาวน้อยผีเสื้อปีกสีม่วงอมชมพูกล่าวเสียงดัง เพื่อให้แม่มดเวเนสซาได้ยิน

ของฉันต่างหาก ต้องเป็นของฉันผีเสื้อตัวอื่นกล่าวเสียงดังอื้ออึง และต่างเข้าแย่งชิงน้ำหวานวิเศษนั้น เอะอะ ชุลมุนวุ่นวาย

ดังที่คาดหมายอาไว้ ไม่นาน แม่มดเวเนสซาก็ปรากฏกายขึ้น พร้อมเหล่าทหารด้วงผู้แกร่งกร้าว

อะไรกัน แย่งชิงอะไรกันนางแม่มดกล่าวด้วยเสียงแข็งกร้าว เยือกเย็น ชนิดที่ใครได้ยินต้องกลัวทุกคน

นั่นอะไรนางชี้ไปที่ภาชนะบรรจุน้ำหวานวิเศษ

ทุกคนรวบรวมความกล้า แสร้งทำเป็นเงียบ แล้วหนุ่มผีเสื้อปีกสีส้มผู้กล้าหาญก็พูดขึ้นอย่างตะกุกตะกักเพื่อให้สมจริงว่า

น้ำหวายวิเศษ ของเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา ใครได้ดื่มกินแล้ว จะคงความสวยงามอ่อนวัย ชั่งกาลนาน

มีด้วยรึ อย่างนั้นมันต้องเป็นของข้าเท่านั้นนางแม่มดกล่าว แล้วหัวเราะอย่างน่ากลัว ก่อนที่จะหันไปออกคำสั่งกับพวกด้วงสีดำทะมึน ..  พวกเจ้าไปเอาน้ำหวานวิเศษนั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้

พวกด้วงกรูเข้าแย่งชิงน้ำหวานที่ว่าวิเศษนั้น แล้วนำไปให้นางแม่มดวาเนสซาด้วยความเกรงกลัว นางแม่มดรีบดื่มน้ำเสาวรสอันหอมหวานนั้นเสียทั้งหมด ไม่นาน นางก็เมามายไม่ได้สติ เพราะแท้จริงแล้ว น้ำหวานวิเศษนั้นคือ สุราน้ำเสาวรส ที่ได้จากการหมักบ่มน้ำหวานจากผลของต้นแพสซิฟลอรานั่นเอง

ขณะที่เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้น บรรดาผึ้งทหาร และเทพบุตร เทพธิดาแห่งดอกไม้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าอิงเกิ้ลวู้ด ก็พากันบุกเข้าไปในปราสาทแห่งรัตติกาล เพื่อช่วยเหลือราชินีผึ้งจนเป็นผลสำเร็จ มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจากกรปะทะกันกับพวก้วงทหารยามที่รักษาการณ์อยู่

ส่วนนางแม่มดวาเนสซาตัวร้ายนั้น เมามายไม่ได้สติ ด้วยความอยากที่จะเยาว์วัยตลอดกาล

เย็นวันนั้นที่นครผึ้ง มีการเฉลิมฉลองการกลับมาของราชินีผึ้งของพวกเขา บรรดาเทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้ ซึ่งรวมถึงเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอราคนสำคัญ ต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน

เมื่อราชินีผึ้งทราบเรื่องราวทั้งหมด พระนางบัญชาให้ผึ้งองครักษ์เบิกตัวเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอราเข้าเฝ้า ราชินีผึ้งตรัสอย่างแช่มช้ากับเทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไพเราะว่า

ข้า ขอขอบใจท่านที่ช่วยข้าในครั้งนี้ บุญคุณทั้งหมดคงไม่อาจทดแทนได้ ด้วยว่ายิ่งใหญ่นัก

ขณะมีพระราชดำรัสนั้น พระนางค่อยบรรจงถอดมงกุฎน้อยเหนือเศียร ยื่นประทานให้แก่เทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา แล้วมีพระราชดำรัสต่อ

ข้า ขออมอบมงกุฎน้อย เพื่อแสดงความขอบใจอย่างสุดซึ้ง และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งน้ำใจที่ท่านมีต่อข้า และน้ำใจที่เหล่าเทพบุตรและเทพธิดาแห่งดอกไม้มีต่อเราชาวผึ้ง และข้าก็ปรารถนาที่จะเห็นมิตรภาพนี้ดำรงอยู่ตลอดไป ขอท่านได้โปรดรับมงกุฎนี้ไว้ด้วยเถิด

เทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา น้อมรับพระราชทานมงกุฎน้อยนั้นจากพระหัตถ์ของราชินีแห่งนครผึ้ง และตั้งแต่นั้นมา ระหว่างกลีบดอกและก้านชูเกสรของดอกแพสซิฟลอรา จึงปรากฏมีมงกุฎเล็กๆล้อมประดับอยู่ตราบจนทุกวันนี้

*************************


Passiflora เป็นไม้เลื้อยในวงศ์ PASSIFLORA CEAE พบตามธรรมชาติทั่วไปในเขตร้อนของทวีปอเมริกา ส่วนภาพดอก Passiflora ที่ใช้ประกอบเรื่องถ่ายมาจากที่บ้าน และพุ่มไม้ข้างทางเมื่อฤดูฝนปีที่แล้ว

ดอก Passiflora ที่ดูสวยงาม แต่ลึกลับนั้น ประกอบด้วยกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ บริเวณฐานของก้านชูเกสรต่อจากกลีบดอก ถ้าสังเกตดูจะเห็นมีมงกุฎเล็กๆล้อมเป็นวงรอบ

นั่นคือมงกุฎน้อยที่เทพธิดาแห่งดอกแพสซิฟลอรา ได้รับพระราชทานมาจากพระหัตถ์ของราชินีผึ้ง มงกุฎน้อย ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งน้ำใจ และมิตรภาพที่มีและได้แสดงออกต่อกัน ในครั้งกระโน้น ณ ดินแดนแห่งดอกไม้แสนสวย นานแสนนานมาแล้ว
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น